สื่อ ญี่ปุ่น คาด ต่อภาวะฉุกเฉิน หลังสถานการณ์โควิดยังแย่

สื่อ ญี่ปุ่น คาด ต่อภาวะฉุกเฉิน หลังสถานการณ์โควิดยังแย่

สื่อในประเทศ ญี่ปุ่น คาดว่าทางการเตรียม ต่อภาวะฉุกเฉิน ในเร็ววันนี้ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดยังคงวิกฤติต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 27 มกราคม สำนักข่าว เกียวโด ได้รายงานว่า นาย โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น อาจประกาศต่อภาวะฉุกเฉินที่มีกำหนดสิ้นสุดลงในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ในเร็ววันนี้ หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศญี่ปุ่นยังย่ำแย่

โดยผู้ให้ข้อมูลได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวว่า 

การต่อภาวะฉุกเฉินในครั้งนี้จะยืดไปถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้แทน ซึ่งจากการใช้ภาวะฉุกเฉิน ทางการญี่ปุ่นจะร้องขอให้ร้านค้า ร้านอาหาร และผับบาร์ เปิดให้บริการถึงเพียงแค่ 2 ทุ่มเท่านั้น และขอให้ประชาชนเลี่ยงออกนอกเคหสถาน

อย่างไรก็ตามหากยึดตามภาวะฉุกเฉินปัจจุบัน จะไม่มีบทลงโทษสำหรับร้านค้าหรือประชาชนที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 มกราคม ทางการญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนที่ทางการจะขยายพื้นที่ใช้ภาวะฉุกเฉินเป็น 11 จังหวัด ซึ่งเป็นจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด และคิดเป็นราวๆร้อยละ 60 ของเศรษฐกิจของประเทศ

หลังจากที่กลายเป็นกระแสฮือฮาในช่วง พิธีสาบานตรง Meme ของนาย เบอร์นี แซนเดอร์ ได้ช่วยเหลือการกุศลแล้วเกือบ 55 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 27 มกราคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า สินค้าที่ระลึกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพมีมส์ (meme) ของนาย เบอร์นี่ แซนเดอร์ส อดีตผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถระดมทุนได้เป็นเงิน 1.8 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 55 ล้านบาท

หลังจากที่นาย แซนเดอร์ ประกาศว่าเขาจะขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภาพดังกล่าว เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือการองค์กรกุศลในรัฐเวอร์มอนต์

โดยสินค้าที่มีตั้งแต่ เสื้อยืด เสื้อออกกำลัง สติ๊กเกอร์ ถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงภายใน 30 นาทีที่วางขายครั้งแรก ก่อนที่สินค้าล็อตที่สองจะเริ่มจัดจำหน่ายอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และขายหมดอีกครั้งในวันจันทร์

ปชช. เมียนมา เข้ารับ ฉีดวัคซีนโควิด

เจ้าหน้าที่แพทย์ราวๆร้อยคนในประเทศ เมียนมา เข้ารับ ฉีดวัคซีนโควิด เป็นที่แรกในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ ออง ซาน ซูจี เข้าฉีดวัคซีนพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 27 มกราคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า เจ้าหน้าที่แพทย์ในประเทศเมียนมาราวๆร้อยคน เข้ารับฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา วัคซีนต้านโควิดในวันนี้ ซึ่งถือเป็นชาติแรกในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะมีการฉีดวัคซีน

โดย นาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เจ้าหน้าที่แพทย์จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับฉีดวัคซีน หลังจากที่พวกเขาได้รับการบริจาคไวรัส 1.5 ล้านโดส โดยวัคซีนชุดดังกล่าวเดินทางมาถึงเมียนมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งนางซูจีจะเฝ้าสังเกตการฉีดวัคซีนครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการฉีดวัคซีนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากทางการที่มีอย่างจำกัด นอกจากนี้ผู้นำเมียนมาจะเฝ้าสังเกตการผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้รับวัคซีน

คาดว่านางอองซานซูจี จะเข้ารับวัคซีนในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้

ประเทศเมียนมาถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หนักที่สุด ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขณะนี้เมียนมามียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่าเกือบ 140,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมากกว่า 3 พันศพ

กลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลัง อินเดียตัดสินให้การ ลูบคลำโดยไม่ถอดเสื้อ ไม่ผิด หลังมีคดีลวนลามเด็กอายุ 12  

เมื่อวันที่ 26 มกราคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า ศาลสูงในประเทศอินเดียตัดสินให้ชายวัย 39 ปี ผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงอายุ 12 ปี ไม่มีความผิดหลัง เนื่องจากชายคนดังกล่าวลูบคลำเด็กหญิงคนดังกล่าว โดยไม่ได้ถอดเสื้อจำเลย

โดยผู้พิพากษาระบุว่าพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุไม่ได้เข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศ เนื่องจากไม่ได้มีการสัมผัสกันแบบผิวหนังต่อผิวหนัง ซึ่งเธอยังได้กล่าวอีกว่าจำเลยต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนกว่านี้

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า